วันอาทิตย์ที่ 10 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

วันเสาร์ที่ 9 พฤษภาคม พ.ศ. 2552

ประวัติหลวงปู่หนู ฉินนะกาโม




“หลวงปู่หนู ฉินนกาโม” ชื่อเดิมว่า “หนู เจริญวิทยา” เกิดเดือนธันวาคม พ.ศ. ๒๔๓๘ ที่หมู่ ๕ ต.หนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี โยมบิดาชื่อ “นายฮง” มารดาชื่อ “นางบาง” จบชั้น ป.๔ โรงเรียนวัดหนองโพ แล้วช่วยบิดา-มารดาทำงานทางบ้าน จากนั้นได้บวชเป็นสามเณร ณ วัดหนองโพ อ.โพธาราม จ.ราชบุรี ศึกษาพระปริยัติธรรมจนสอบได้ นักธรรมโท แล้วหันมาสนใจวิชาทางไสยศาสตร์และเวทมนตร์คาถา พุทธาคม จึงไปเรียนวิชาการต่าง ๆ กับ หลวงพ่อหลาบ วัดเนินตอ อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี จนเชี่ยวชาญจึงไปเรียนกับ หลวงพ่อหลุง วัดทุ่งสมอ อีก ๓ ปี กระทั่งอายุครบบวชในปี พ.ศ. ๒๔๕๘ จึงทำการอุปสมบทที่ วัดใหม่เจริญผล โดยมี หลวงพ่อปลิว เป็นพระอุปัช ฌาย์แล้วไปจำพรรษาที่ สำนักสงฆ์วัดเขาคร้อ หนึ่งพรรษาจึงไปเรียนวิชา พุทธาคมและวิปัสสนากับ “หลวงพ่อโหน่ง วัดคลองมะดัน” จ.สุพรรณ บุรี จากนั้นก็ไปเรียนวิชากับ “หลวงพ่อจันทร์ วัดบ้านยาง, หลวงพ่อแช่ม วัดตาก้อง จ.นคร ปฐม” ซึ่งระหว่างเรียนวิชากับ “หลวงพ่อแช่ม” ได้พบกับศิษย์อีกคนหนึ่งของหลวงพ่อแช่มที่มาเรียนด้วยคือ “หลวงพ่อเต๋ วัดสามง่าม” จ.นคร ปฐม จากนั้นจึงไปจำพรรษาที่ สำนักสงฆ์เขาคร้อ จนคณะสงฆ์เห็นในศีลาจารวัตรของท่านเหมาะสม จึงนิมนต์ไปเป็นเจ้าอาวาส วัดกระต่ายเต้น อ.ท่ามะกา จ.กาญจนบุรี อยู่ได้ไม่นานมีความเบื่อหน่ายกับการบริหารจัดการวัดร่วมกับกรรมการจึง ลาสิกขาออกไปใช้ชีวิตฆราวาสอยู่ที่ อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี ระหว่างเป็นฆราวาสก็ปฏิบัติธรรมอย่างสม่ำเสมอ ดังนั้นเมื่อถึงวันที่ ๓๐ เมษายน ๒๕๐๒ จึงได้ตัดสินใจอุปสมบทอีกครั้ง ณ วัดกุฎบางเค็ม อ.เขาย้อย จ.เพชรบุรี โดยมี พระครูเกษมสุตคุณ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระมหาเปรย เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “ฉินนกาโม” ละไปจำพรรษาปฏิบัติธรรม ณ วัดไทยธรรมาราม อ.เมือง จ.สุราษฎร์ธานี ๕ พรรษาจึงกลับมา วัดกุฎบางเค็ม ชาวบ้านทุ่งแหลมเลื่อมใสในศีลาจารวัตร จึงนิมนต์ให้ไปจำพรรษาที่ วัดทุ่งแหลม อ.สวนผึ้ง จ.ราชบุรี โดยได้ทำการพัฒนาวัดทุ่งแหลมจนเจริญก้าวหน้าเป็นลำดับมา ระหว่างอยู่วัดทุ่งแหลมนี้เองมีประชาชนเลื่อมใสศรัทธามาก จึงได้สร้างมงคลวัตถุออกแจกจ่ายมากมายหลายรุ่นและมีประสบการณ์มากมาย จวบจนถึง วันที่ ๙ กันยายน พ.ศ. ๒๕๒๙ จึงมรณภาพอย่างสงบ คงทิ้งไว้แต่อนุสรณ์แห่งความดีงามและมงคลวัตถุตลอดจนสังขารที่ไม่ เน่าเปื่อย ทางวัดได้ใส่หีบแก้วไว้ให้เป็นที่พึ่งทางใจแก่ผู้เลื่อม ใสศรัทธาต่อไป

วัตถุมงคลรุ่นต่างๆของท่านครับ

รุ่นสุดท้ายครับ



รุ่นนี้ไม่ค่อยเคยเห็นครับ

รุ่นคทาไขว้



รุ่นแม่ครัวครับ





เหรียญรุ่นแรกครับ







พระผงรูปเหมือน






สมเด็จครับ






รูปหล่อ









สร้างศาลาการเปรียญ



วัตถุมงคลแต่ละรุ่นของท่านมีประสบการณ์มากมายทางแคล้วคลาด คงกระพัน เกิดปาฏิหาริญ์อย่างที่คาดไม่ถึง ใครมีเหรียญหรือวัตถุมงคลของท่านต่างก็หวงแหนกันเพราะมีประสบการณ์สูงคนพื้นที่หวงแหนกันมากโดยเฉพาะเหรียญรุ่นแรกของท่าน เชิญแวะมานมัสการสังขารท่านที่ได้ที่วัดทุ่งแหลมครับ
































































เหรียญรุ่น2



รุ่นนี้ประสบการณ์มีแล้วครับ


















หลวงปู่หนูวัดทุ่งแหลม


หลวงปู่นับเป็น พระที่นับถือและรู้จัก เป็นองค์แรกๆ ตั้งแต่ตอนสมัยวัยรุ่น เนื่องจากประสบกาารณ์ ที่เข้มขลังสุดๆ สมัยก่อนนั้นท่านเป็นอาจารย์สักที่ดังมาก ขนาดเจ้านายชั้นสูงยังไปสักกับท่านเลยครับ ส่วนตัวมีประสบการณ์เรื่องรอยสักรูปหนุมานเชิญธง ด้วยตนเองหลายครั้ง เช่น หลายๆครั้งสมัยก่อน เมื่อสักแล้วอาจารย์ผู้สักก็จะมีข้อห้ามบางข้อให็ยึกถือ(ที่บ้านผมผู้ชายสักกับท่านทุกคน รวมถึงเพื่อนๆแถวบ้าน) เช่นเวลาดื่มสุราท่านไม่ให้ดื่มร่วมแก้วกับผู้อื่น ที่เรียกว่าเหล้าก้นแก้ว เมื่อดื่มเข้าไปจะเกิดอาการ คุมตัวเองไม่อยู่ลอยสักก็จะนูนเด่นขึ้นมาที่ผิวหนังเป็นรูปหนุมาน ลอยขึ้นมา พละกำลังก็จะมาก เหมือนหนุมาน ขนาดคนตัวเล็กเมื่อของขี้นแล้ว คนตัวใหญ่ๆ ๕-๖ คนยังจับไม่อยู่เลย วิธีแก้ในสมัยก่อนนั้นก็จะจุดธูปบอกไปยังอาจารย์ แล้วหาจังหวะตบที่หูไม่ต้องแรงมากนะครับ ก็จะร่วงหลับไปเองเลยครับ ส่วนผู้ที่สักกับท่านในสมัยก่อนจะทราบดี เวลาที่เราท่องคาถาหัวใจ หนุมาน (หนุมานะ ๆๆๆ )ซ้ำๆกันให้จิตเป็นสมาธิแล้วเป่าไปที่สีข้าง(หลวงปู่จะสักรูปหนุมานยกทัพที่สีข้างครับ) รอยสักก็จะลอยเด่นขึ้นมาเช่นกัน...อันนี้เป็นประสบการณ์ส่วนตัว โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะครับ

กิจกรรม